ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized) ที่หลายๆคนมักจะเรียกว่า การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน นอกจากการกันสนิมแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมาก และยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากๆ ทำให้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สามารถใช้งานครัวเรือนทั่วๆไป หรือในงานโรงงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

Hot-Dip Galvanized คืออะไร?
Hot-Dip Galvanized หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเหล็กชุบกัลวาไนซ์แบบจุ่มร้อน คือกระบวนการนำเหล็กไปจุ่มลงในอ่างสังกะสีที่หลอมเหลวที่อุณหภูมิประมาณ 450 °C ทำให้เกิดการเคลือบชั้นสังกะสีที่ยึดติดกับผิวเหล็กอย่างหนาและถาวร
คุณสมบัติเด่นของการชุบแบบนี้ ได้แก่:
- ความหนาชั้นเคลือบสูง (65–300 ไมครอน) → ทนต่อการกัดกร่อนดีกว่าชุบสังกะสีแบบไฟฟ้า (Electroplating)
- ป้องกันสนิมได้ยาวนาน อายุการใช้งาน 20–50 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
- ปกป้องทั้งภายนอกและภายใน ชั้นสังกะสีจะเคลือบเข้าไปในรอยต่อหรือรอยเชื่อมเล็กๆ ที่สีหรือการเคลือบผิวทั่วไปเข้าไม่ถึง
- เหมาะกับงาน Outdoor เช่น โครงสร้างอาคาร สะพาน รั้ว โรงงาน เสาไฟฟ้า
ดังนั้น หากเจอคำถามว่า “Hot-Dip Galvanized คืออะไร?” หรือ “ชุบกัลวาไนซ์ คือ?” คำตอบก็คือวิธีชุบเหล็กด้วยสังกะสีแบบจุ่มร้อน ที่ทำให้เหล็กทนทานต่อสนิมและใช้งานได้ยาวนานกว่าวิธีอื่น
ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized) คือ
- ประหยัดค่าสีกันสนิม
- ไม่ต้องทากันสนิม ทำให้ประหยัดค่าบำรุงรักษา
- มีความแข็งแรง
- มีอายุการใช้งานยาวนาน
จากคุณสมบัติของเหล็กชุบกัลวาไนซ์เหล่านี้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ที่ช่วยประหยัดได้ในระยะยาว
การป้องกันสนิม
นอกจากการชุบกัลวาไนซ์แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ในการป้องกันการเกิดสนิม แต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ในบางอุตสาหกรรม ได้แก่
การเคลือบผิว
- การพ่นโฟมกันสนิม
- การทาสี/พ่นสี กันสนิม
- การชุบซิ้ง (Electro Plated Galvanized)
- การชุบ Hot-Dip Galvanized
- การชุบโลหะอื่นๆ เช่น ดีบุก
การทำเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel)
การทำเหล็กกล้าไร้สนิม สามารถทำได้โดยการเพิ่มส่วนผสมอื่นๆเข้าไป ทำให้เกิดเป็นฟิล์มบางๆ บนผิวเหล็ก เช่น นิเกิล (Ni) โครเมียม (Cr) ทั้งนี้ แผ่นฟิล์มที่เคลือบเหล็กจะช่วยป้องกันเหล็กสัมผัสกับบรรยากาศโดยตรง
การใช้กระแสไฟฟ้า
ทำได้โดยการทำให้เหล็กมีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าบริเวณโดยรอบ ทำให้เหล็กนั้นไม่สูญเสียอิเลกตรอน ให้กับบรรยากาศซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสนิม วิธีการนี้สามารถทำได้ในทุกสภาวะแวดล้อม แต่มีค่าใช้จ่ายสูง เหมาะกับโครงการที่เสี่ยงต่อการเกิดสนิมอย่างรุนแรง เช่น ท่อเดินน้ำมันในทะเล เป็นต้น
การป้องกันสนิมที่นิยมใช้กันในงานอุตสาหกรรม คือ การเคลือบผิวเนื่องจากมีราคาถูกกว่า สะดวกกว่า โดยการชุบ Hot-Dip Galvanized เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพง อายุการใช้งานนานกว่าทุกชนิดของการเคลือบผิว และเป็นที่ยอมรับในงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้เหล็กกัลวาไนซ์มีแนวโน้มการใช้งานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันสนิม และเป็นการยืออายุการใช้งานให้กับเหล็ก รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มความแข็งแรง โดยมีอายุการใช้งานมากถึง 50 ปี โดยที่ไม่เป็นสนิม และยังมีค่าบำรุงรักษาที่น้อย จนแทบจะไม่จำเป็นต้องมีการดูแล ยังสามารถใช้ภายใน หรือภายนอกได้ดีอีกด้วย จึงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
เปรียบเทียบ Hot-Dip Galvanized กับการป้องกันสนิมแบบอื่น
การป้องกันสนิมของเหล็กสามารถทำได้หลายวิธี แต่การชุบ Hot-Dip Galvanized ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ ดังนี้
| วิธีป้องกันสนิม | อายุการใช้งาน | ค่าใช้จ่าย | การดูแลรักษา | ความเหมาะสม |
| ทาสี / พ่นสีกันสนิม | 3–5 ปี | ต่ำ | ต้องบำรุงรักษาบ่อย | งานชั่วคราว / Indoor |
| ชุบสังกะสีด้วยไฟฟ้า (ซิงค์) | 5–10 ปี | ปานกลาง | มีโอกาสเป็นสนิมเร็วขึ้น | งานตกแต่ง / Indoor |
| สแตนเลส | 30+ ปี | สูงมาก | ดูแลน้อย | งานสัมผัสสารเคมี / อาหาร |
| Hot-Dip Galvanized (กัลวาไนซ์) | 20–50 ปี | คุ้มค่า | แทบไม่ต้องดูแล | งานโครงสร้าง / Outdoor |
จากตารางจะเห็นว่า Hot-Dip Galvanized เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด เพราะผสมผสานระหว่าง อายุการใช้งานที่ยาวนาน และ ต้นทุนที่ไม่สูงเกินไป
ทำไมงานอุตสาหกรรมถึงนิยมชุบ Hot-Dip Galvanized?
เหตุผลที่งานอุตสาหกรรมเลือกชุบ Hot-Dip Galvanized มากกว่าวิธีอื่น มีดังนี้:
- ลดต้นทุนระยะยาว → แม้ค่าชุบกัลวาไนซ์อาจสูงกว่าวิธีชุบทั่วไป แต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงในอนาคต
- มาตรฐานอุตสาหกรรม → งานใหญ่ เช่น อาคาร สะพาน โรงงาน โรงไฟฟ้า นิยมใช้เหล็กชุบกัลวาไนซ์ เพราะทนต่อสภาพกลางแจ้งได้หลายสิบปี
- รองรับงานที่เสี่ยงต่อสนิม → เช่น โครงสร้างที่ใกล้ทะเล โรงงานที่มีความชื้นสูง หรือระบบโครงสร้างกลางแจ้ง
- ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย → เหล็กที่ผ่านการชุบ Hot-Dip Galvanized มาตรฐาน มีความแข็งแรงและปลอดภัยต่อการใช้งานเชิงวิศวกรรม
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่อุตสาหกรรมก่อสร้างและโรงงานขนาดใหญ่ มักเลือกใช้ Hot-Dip Galvanized Steel เป็นมาตรฐานแทนการชุบสังกะสีทั่วไป

